อาซาอิเบอร์รี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มาจากประเทศแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ซึ่งพบเจอบ่อยในป่าดิบชื้นแถบอเมซอน โดยส่วนที่มักจะนำบริโภคคือ ผล ซึ่งมีทรงกลมขนาดประมาณ 1 นิ้ว มีลักษณะสีม่วงเข้ม รสชาติคล้ายแบล็กเบอร์รี่ผสมกับช็อกโกแล็ตรสขม
สำหรับในแง่ของสารอาหารนั้น อาซาอิเบอร์รี่ก็อัดแน่นไปด้วยสารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย เช่น ในค่าสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน มีวิตามินเอ อยู่ประมาณ 15 เปอร์เซนต์ และวิตามินอื่น ๆ, แคลเซียม มีอยู่ประมาณ 2 เปอร์เซนต์, แร่ธาตุสำคัญอย่าง โครเมียม สังกะสี เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แมกนีเซียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส, กรดไขมันและกรดอะมิโน และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไซยานินและตัวอื่น ๆ ซึ่งสูงมาก กล่าวง่าย ๆ ก็คือ เพียงแค่รับประทานอาซาอิเบอร์รี่ เพียง 10 กรัม ก็จะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับการรับประทานมะเขือเทศสูงถึง 188 ลูกเลยทีเดียว
ประโยชน์ของ “อาซาอิเบอร์รี่”
แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันคุณสมบัติของ Acai ในด้านนี้ได้อย่างชัดเจน และถึงแม้ว่าการบริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ร่างกายดูดซึมและสลายสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่งานวิจัยหลายชิ้นกลับพบว่าการบริโภคอาซาอิเบอร์รี่ไม่ได้ช่วยให้อัตราการเผาผลาญของร่างกายเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยหนึ่งที่พบว่า การรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ Acai อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ภาวะความดันเลือดสูง และโรคเบาหวานในผู้ที่มีภาวะอ้วน ผลไม้ชนิดนี้ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น
ต้านอนุมูลอิสระ
โดยเปลือกสีม่วงเข้มของผลนั้น อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ได้รับความเสียหายจากสารอนุมูลอิสระ และอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของร่างกายตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้
ต้านการอักเสบ
จากผลของการค้นคว้าทดลอง มีรายงานที่ระบุว่า สารในอาซาอิเบอร์รี่ มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบที่อาจก่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดได้