ไอเฮิร์บ กรุ๊ป
ไอ เฮิร์บ กรุ๊ป (iHerb Group) เป็นผู้มีประสบการณ์ในตลาดธุรกิจอาหารเสริม และสุขภาพมายาวนาน เรามีปณิธานแนวคิดโดย “ i ” มาจากคำว่า “innovation” ซึ่งแปลว่า “นวัตกรรม” เรามีความถนัด และเชี่ยวชาญด้านการคิดค้น ประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัย หรือสูตร และรูปแบบของตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย “Herb” มาจากคำว่า “สมุนไพร” เรามองหาสมุนไพรจากทั่วทุกมุมโลก ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด และไม่หยุดที่จะหาสิ่งที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุด
ซึ่งภายใต้ ไอ เฮิร์บ กรุ๊ป(iHerb Group) ประกอบด้วย 3 บริษัทในเครือ ได้แก่
- บริษัท ไอ เฮิร์บ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Iherb corporation company limited) ก่อตั่งในปี 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาทถ้วน)
- บริษัท 10,000 ปี จำกัด จำกัด (10,000years company limited) ก่อตั่งในปี 2552 ด้วยทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน)
- บริษัท ไอเฮิร์บ แมนูแฟคเจอรริ่ง จำกัด (Iherb manufacturing company limited) ก่อตั่งในปี 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน)
ไอ เฮิร์บ กรุ๊ป(iHerb Group) ก่อตั้งโรงงานขึ้นเพื่อรองรับ และตอบสนองความต้องการของตลาด ด้านการผลิต และพัฒนาอาหารเสริมให้แก่ผู้ที่มีความสนใจทำธุรกิจ และมีความต้องการผู้ผลิตที่มีความพร้อมในด้านการผลิต การพัฒนา การออกแบบ และการบริการให้คำปรึกษาด้านการตลาดแบบครบวงจร โดยครอบคลุมผลิตภัณฑ์ตั้งแต่อาหารเสริม เครื่องดื่ม สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และความงามต่างๆ ด้วยการควบคุมและรับรองตามมาตรฐานสากลอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์หรือ สินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย แปลกใหม่ คุ้มค่า และที่สำคัญคือเห็นผลจริง
ไอ เฮิร์บ กรุ๊ป(iHerb Group) ยินดีให้บริการทั้งด้านการรับผลิตสินค้าตามที่ลูกค้ากำหนด (OEM) ด้วยเครื่องจักร และนวัตกรรมสมัยใหม่ พร้อมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และรับออกแบบและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ (ODM) เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และสวยงาม รวมถึงบริการจัดหาและแนะนำสูตรวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปจนถึงการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) อีกทั้งการบริการให้คำปรึกษาในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ กับผู้ประกอบการรายใหม่ที่กำลังริเริ่มหรือต้องการเข้ามาสู่ธุรกิจอาหารเสริม ด้วยการบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ลูกค้าจึงสามารถได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ และสะดวกรวดเร็ว ในราคาที่คุ้มค่าและเกิดปัญหาน้อยที่สุด เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจร่วมกัน