ขมิ้นชัน มีสารสำคัญที่ชื่อว่า เคอร์คูมินอยด์ ซึ่งมีองค์ประกอบของสาร 3 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่ เคอร์คูมิน, เดเมทอกซีเคอร์คูมิน และบิสเดเมททอกซีเคอร์คูมิน ซึ่งสาร 3 ตัวนี้สามารถต้านมะเร็ง ต้านอาการอักเสบตามข้อต่าง ๆ ได้ และต้านจุลินทรีย์ ด้วยสรรพคุณของขมิ้นชันดังกล่าว จึงได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาแผลในทางเดินอาหาร และสามารถบรรเทาอาการโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน, ภาวะท้องอืดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง, โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเลือดลมไหลเวียนไม่ดี ก็สามารถใช้สรรพคุณของขมิ้นชันรักษาได้ รวมถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นับว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณและคุณประโยชน์มากมาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
สรรพคุณของขมิ้นชัน ซึ่งประกอบด้วยสาร Curcumin มีคุณสมบัติทางการแพทย์ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ สาร Curcumin มีผลต่อการตอบสนองของเซลล์ต่ออินซูลิน ซึ่งช่วยให้ร่างกายมีความสามารถในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบซึ่งเป็นปัจจัยที่มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และการลดความเครียดที่สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย การบริโภคขมิ้นชั้นในอาหาร หรืออาหารเสริมสุขภาพ จะช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และส่งเสริมสุขภาพที่ดีของระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้
2. ช่วยรักษาอาการข้ออักเสบ
อีกทั้งสรรพคุณของขมิ้นชัน ยังสามารถรักษาโรคไขข้ออักเสบได้ โดยโรคนี้จะเกิดขึ้น กับผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่เพราะข้อต่าง ๆ นั้นจะเสื่อมลงตามกาลเวลา หากทานขมิ้นชันเข้าไปสารเคอร์คูมินจะช่วยลดความเสื่อมที่จะเกิดขึ้นกับข้อต่าง ๆ ได้ โดยผลวิจัยจากหลายประเทศยังสรุปได้ว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาอักเสบแผนปัจจุบันได้เลย และที่สำคัญมีความปลอดภัย เพราะว่าสมุนไพรไม่มีผลข้างเคียง หรืออันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย
3. ช่วยต้านการอักเสบตามธรรมชาติ
สรรพคุณของขมิ้นชัน นอกจากลดการอักเสบของข้อเข่าแล้ว ยังสามารถต้านอาการอักเสบตามธรรมชาติได้เพราะมีสารสกัดเคอร์คูมินซึ่งสามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายได้ และสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังได้ด้วย เช่น โรคอัลไซเมอร์, โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ เป็นต้น ที่สำคัญเลยยังมีส่วนช่วยชะลอการเกิดความเสื่อมที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายได้ ซึ่งมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบในระดับโมเลกุล สรรพคุณของขมิ้นชันในการต้านการอักเสบ และช่วยต้านอนุมูลอิสระนั้น ยังเป็นประโยชน์สำหรับการบำรุงผิวอีกด้วย ซึ่งขมิ้นชันสามารถช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ลดอาการอักเสบของสิว และช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากสิว ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เช่น แสงแดด และมลภาวะอากาศต่าง ๆ ที่อาจทำร้ายผิวได้อีกด้วย
4. ช่วยต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย
นอกจากการต้านการอักเสบแล้ว ขมิ้นชันยังมีประโยชน์ในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เพราะถ้าเกิดในร่างกายมีสารอนุมูลอิสระที่มากเกินไป จะทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมลง และทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นมาได้ หากคุณทานขมิ้นชันเข้าไป จะช่วยทำให้สารอนุมูลอิสระภายในร่างกายลดลง นอกจากจะมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระในร่างกายให้ทำงานได้ดีอีกขึ้นอีกด้วย
และยังลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงบางชนิด เช่น ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะกลุ่มมะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นขมิ้นชันยังช่วยเสริมการไหลเวียนเลือด และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดสมอง เช่น อัมพฤกษ์ หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบได้อีกด้วย
5. รักษาโรคกรดไหลย้อนและโรคกระเพาะอาหาร
สารเคอร์คูมินในขมิ้นชัน สามารถเยียวยาการอักเสบของกระเพาะอาหารได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน และยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอก จุกเสียด อาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย พร้อมช่วยฟื้นฟูให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ลดอาการท้องเสีย อุจจาระร่วง และช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง เกร็งท้อง อีกทั้งยังช่วยรักษาและฟื้นฟูแผลในกระเพาะได้
6. เสริมภูมิคุ้มกัน
ขมิ้นชันนั้นมีสรรพคุณหลายอย่างดังกล่าวในข้างต้น แต่ที่สำคัญเลยขมิ้นชันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ เช่นการป้องกันโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง โรคกระเพาะ โรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ รวมถึงการเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน และช่วยในเรื่องของการลดความเครียดที่อาจกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการอักเสบได้ เพราะขมิ้นชันมีสารออกซิแดนต์ที่ดี ที่มีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เป็นยังดี และช่วยลดการติดเชื้อได้อีกด้วย
7. ช่วยขับลม ลดการจุกเสียด
ขมิ้นชันนั้นเป็นสมุนไพรลดร้อน มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนได้ดี อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงสามารถรักษาแผลในกระเพาะให้หายได้เร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่น ท้องอืด ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยขับลม บรรเทาอาการนิ่วในถุงน้ำดีได้ รวมถึงป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร บำรุงหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง จึงจัดว่าเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย
